วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

การปลูกองุ่น

สภาพอากาศที่เหมาะแก่การปลูกองุ่น องุ่นเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-4,000ฟุต แต่ก็มีบางพันธุ์ก็สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่สูงจากน้ำทะเล 6,000 ฟุตก็มีครับ ส่วนในประเทศไทยก็สามารถเจริญเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน แต่องุ่นที่ปลูกในประเทศไทยเหมาะที่จะปลูกเพื่อนทานผลมากกว่า การปลูกเพือทำเหล้าเหมือนกย่างในยุโรปครับ
สภาพดินที่เหมาะกับการปลูกองุ่น ต้องเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ถ้าจะให้ดีควรเป็นดินเหนียวปนดินร่วนตามที่ราบลุ่มแม่น้ำ สภาพความเป็นกรด-ด่าง(HP) อยู่ที่ 5.6-6.4 และมีปริมาณน้ำเพียงพอ แต่น้ำท่วมไม่ถึงเด็ดขาด
พันองุ่นที่นิยมปลูก
1. พันธุ์ไวท์มะละกา เป็นพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดในทุกวันนี้ เหมาะในการปลูกเพื่อทานผล มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์หลักๆ คือ ชนิดผลกลม และผลยาว ลักษณะทางสายพันธุ์มีช่อใหญ่ มีลูกเยอะ สีของผลเมือแก่พร้อมเก็บเกี่ยว มีสีเหลืองอมเขียว รสหวาน หนึ่งปีให้ผลผลิต 2 ครั้ง
2. พันธุ์คาร์ดินัล เป็นองุ่นที่ปลูกง่าย ดูแลง่ายให้ผลผลิตสูง ช่อผลใหญ่ ผลมีสีม่วนดำ รสหวาน กรอบ เปลือกบาง (ทำให้ผลแตกง่าย หากเก็บเกี่ยวไม่ทัน) ในเวลา 2 ปี เก็บผลผลิตได้ 5 ครั้ง แต่ราคาถูกกว่าพันธ์ไวท์มะละกา จึงไม่ค่อยนิยมปลูกเท่าที่ควร
วิธีการขยายพันธ์องุ่น องุ่นเป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายมากๆ ครับ สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การปักชำ การตอน การติดตา การเสียบยอด และการเสริมราก  แต่ไม่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดเพราะจะทำให้กลายพันธุ์ได้ และติดโรคพืชได้ง่ายครับ
การปลูกและการดูแลรักษา
1. การเตรียมพื้นที่ ขึ้นอยู่กับพื้นที่เพาะปลูกองุ่นในแต่ละพื้นที่ เช่น พื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมขังได้ง่าย จะปลูกด้วยการยกร่องให้สูง เพื่อป้องกันรางเน่าในองุ่นครับ
1.1 การปลูกแบบยกร่อง เตรียมพื้นที่โดยการยกร่องให้แปลงมีขนาดกว้าง 6 เมตร ความยาวร่องแล้วแต่ขนาดของพื้นที่ ส่วนความสูงของร่องให้สังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงสุดโดยให้อยู่สูงกว่าแนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตร ขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร ก้นร่องน้ำกว้าง 0.5-0.7 เมตร การปลูกควรปลูกแถวเดียวตรงกลางแปลง เว้นระยะระหว่างหลุมให้ห่างกัน 3-3.50 เมตร
1.2 การปลูกในที่ดอน ควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืชและทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 3×4-3.50×5 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
2. วิธีการปลูก
1. ควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้าง ยาว และลึก ประมาณ 50 เซนติเมตร
2. ผสมดิน ปุ๋ยคอก และปุ๋ยร๊อคฟอสเฟต เข้าด้วยกันในหลุมให้สูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
3. ยกถุงกล้าต้นองุ่นวางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
4. ใช้มีดที่คมกรีดถึงจากก้นขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา)
5. ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก
6. กลบดินที่เหลือลงไปในหลุม
7. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
8. ป้กไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมพัดโยก
9. หาวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง
10. รดน้ำให้โชก
11. ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด
3. การทำค้าง
การทำค้างขจะทำหลังจากที่ปลูกองุ่นแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่งต้นองุ่นจะสูงพอดีที่จะขึ้นค้างได้ ค้างต้นองุ่นมีหลายแบบด้วยกันแต่แบบที่นิยมกันมากคือ ค้างแบบเสาคู่แล้วใช้ลวดขึง มีวิธีการและขั้นตอน ดังนี้
การเลือกเสาค้าง เสาค้างอาจใช้เสาซีเมนต์หน้า3 นิ้ว หรือ 4 นิ้วก็ได้ เสาค้างซีเมนต์จะแข็งแรงทนทานอยู่ได้นานหลายปี แต่มีราคาแพงและหนัก เวลาทำค้างต้องเสียแรงงงานมาก ถ้าใช้เสาไม้ให้ใช้ไม้เนื้อแข็งขนาดหน้า 2×3 นิ้ว หรือหน้า 2×4 นิ้ว หรือเสากลมก็ได้ เสาควรยาวประมาณ 2.5-3 เมตร หรือยาวกว่านี้ ซึ่งเมื่อปักลงดินเรียบร้อยแล้ว ให้เหลือส่วนที่อยู่เหนือดินประมาณ 1.50 เมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น